Sunday, December 20, 2015

VIBHA ตอนที่ 2 Q&A Oppday

อ่าน ตอนที่ 1 ตาม link เลยครับ

Q&A
1. เป้าหมายการลงทุน กลุ่มโรงพยาบาลที่ถือหุ้นไม่ถึง 20%
- VIBHA ถือหุ้นแบบ oneway เช่น SKR, สินแพทย์ โดยหากเห็นว่ามีการเติบโต ก็จะลงทุนเพิ่มแน่นอน

2. การหยุดให้บริการคนไข้บัตรทองของโรงพยาบาลช้างเผือก
- คาดว่าจะไม่มีผลกระทบ ปี 2014 ขาดทุน เนื่องจากมีการให้บริการลูกค้าบัตรทอง, ปีนี้จะกำไร

3. รายละเอียดเงินลงทุนในกลุ่มโรงพยาบาลวิภารวม
- การลงทุนแต่ละโรงพยาบาลสร้างใหม่ ประมาณ 700-1,000 ล้านบาท แต่มีตัวแปรคือ ราคาที่ดิน (อาคาร 500-600 ล้านบาท ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง, ส่วนที่ดินไม่เกิน 300 ล้านบาท พื้นที่ 10 ไร่)
- ตอนนี้มุ่งไปลงทุนที่นิคม ตัวอย่าง เช่น วิภารามอมตะ จะทำให้เติบโตเร็วกว่าปกติ เนื่องจากมีฐานผู้ประกันตน อยู่
- จะไปลงทุนเพิ่มที่ วิภารามอมตะระยอง
- เงินจากการออก Warrant จะใช้ในการลงทุนโรงพยาบาลใหม่ๆ

4. มีการเปลี่ยนชื่อโรงพยาบาลให้มีชื่อ "วิภาวดี" หรือ "วิภาราม" หรือไม่
- มีแนวคิดนี้อยู่ จะทำให้การส่งต่อผู้ป่วย ทำได้ดีขึ้น คาดว่าจะใช้เวลา 5 ปี (แต่ในทางพฤตินัย ก็ทำอยู่แล้ว)

5. เป้าหมายการเติบโตของรายได้ 3 ปี ข้างหน้า
- มีโรงพยาบาลเกิดใหม่ ทุกปี กำไรอาจลดลงช่วงแรก แต่ก็มีลูกที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ น่าจะชดเชยได้ คิดว่า จะทำให้ธุรกิจโรงพยาบาลไม่สะดุด (หากหยุดสร้างโรงพยาบาลใหม่เมื่อไหร่ กำไรจะโตเร็ว)
- มองว่าเป็นการสร้างโอกาสเมื่อ AEC เปิด ให้ต่างชาติมาเลือกลงทุนได้ อาจให้หุ้นราคาที่ถูกกว่าโรงพยาบาลที่มีกำไรเยอะๆ
- สรุป เป้ารายได้ คาดว่าจะเติบโตทุกปี, แต่กำไรสุทธิ คาดว่าจะโต 10% ต่อปี

6. รายได้รวมปี 2559 และงบลงทุนเฉลี่ย
- รายได้โตไม่น้อยกว่า 10%
- เงินลงทุนต้องใส่เพิ่ม ประมาณ 300-400 ล้านบาท/ปี
- มีเงินจาก Warrant 1,200 ล้านบาท / 5 ปี
- มี Warrant ทำให้แทบ ไม่ต้องกู้เงิน โดยจะรักษา D/E Ratio = 1 : 1
- ไม่ต้องกังวลเรื่องเพิ่มทุนแน่นอน
- ปันผลดีต่อเนื่อง ดูแลผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี อยากให้ถือในระยะยาว

7. รายได้เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน 3 ปี ที่ผ่านมาพอจะ Breakdown เป็น Volume คนไข้, Intensity, และการปรับราคาค่ารักษาพยาบาล?
- โรงพยาบาลที่เปิดนานๆ เช่น วิภาวดี อัตราการเพิ่มคนไข้ต่ำ
- โรงพยาบาลเปิดใหม่ คนไข้เติบโตสูง
- เหมือนการจับปลา ในทะเล เปิดนานๆ ไม่ค่อยมีปลาให้จับแล้ว แต่ก็มีวิธีการเติบโตคือ ต้องเพิ่มท่ายาก รักษาโรคยากๆ เช่น โรคหัวใจ, โรคสมอง
- แยกรายละเอียดยากว่าที่โต 10% มาจากอะไรบ้าง
- คุณชัยสิทธิ์ มองว่าธุรกิจโรงพยาบาล ยังต่อยอดไปได้มาก ไม่ได้มองว่าต้องมารักษาคนอย่างเดียว เช่น พวก Consumer Product มี Margin สูงมาก และความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้องก็ต่ำกว่า
- ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรงพยาบาล ก็คือ ความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง
- รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับราคายา ในท้องตลาดก็ขึ้นอยู่ตลอดเวลา VIBHA มีการปรับให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และมีระบบการติดตามควบคุมภายในเพื่อลดการรั่วไหล

8. ตึกใหม่ที่ VIBHA plan จะทำอะไรบ้าง, Utilization rate ยังไม่เต็ม?
- Utilization Rate เป็นอัตราการครองเตียงเฉลี่ยทั้งปี มี High / Low Season เช่น ช่วงไข้เลือดออก โดยทั่วไปประมาณ 60% กว่าๆ, เจ้าหน้าที่ ER ก็ต้องเตรียมความพร้อมคนไว้เยอะๆ
- VIBHA มี Net Profit 12-13%, บางโรงพยาบาลที่ถืออยู่ ก็มี EBITDA แค่ 6-7% ถือว่า VIBHA ก็คิดค่าบริการสมเหตุสมผล
- ตั้งเป้าหมายไว้ซัก 300 เตียง
- พื้นที่ ที่จะลงทุนใหม่ คิดว่าจะเพิ่มมูลค่าที่ดินทั้งแปลง เพราะอีก 2 ไร่กว่า ก็ติดหัวถนน ราคาที่ดิน จะกลายเป็น 250,000 บาท/ตร.ว. ทั้งหมด และมีรถไฟฟ้า อยู่ใกล้ สมัยก่อนซื้อมาแค่ 10,000 กว่า/ตร.ว. มี Hidden Asset อยู่นะ เป็น 1,000 ล้านบาท
- ส่วนหนึ่งจะทำเป็น Mall เล็กๆ ด้วย ที่เหลือเป็นโรงพย


Wrap Up
- VIBHA ธุรกิจหลักๆ เป็นกลุ่ม Healthcare ซึ่งก็ถือว่าเป็นกลุ่ม Defensive Stock ที่ดีกลุ่มหนึ่ง มีผลประกอบการที่สม่ำเสมอ ทำให้โดยปกติ ตลาดจะให้ Premium กับหุ้นในกลุ่มนี้ตลอดเวลา
- กลยุทธ์การเติบโต ที่น่าสนใจของบริษัท ก็คือ การขยายโรงพยาบาลร่วมกับกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง ในนาม "โรงพยาบาลวิภาราม" แต่ช่วงเปิดโรงพยาบาลใหม่ ก็อาจฉุดผลประกอบการลงบ้าง
- เจตนารมณ์ Warrant ชัดเจน เพื่อการลงทุนในอนาคต และต้องการให้แปลงเพื่อเอาเงินเข้าบริษัทมาลงทุน
- ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เป็นนักลงทุน มือฉมัง มีความมุ่งมั่น ที่จะนำพากิจการบริษัทให้เจริญเติบโต รวมไปถึงมุ่งหวังที่จะเพิ่ม Market Value ด้วย ซึ่งก็ทำได้ตามที่เคยตั้งเป้าไว้ก่อนหน้า ก็ต้องดูว่า จะทำได้ตามเป้าหมายใหม่หรือไม่ น่าสนใจครับ สำหรับบริษัทนี้

1 comment:

  1. Vibha ผมว่าราคาช่วงนี้แรงเกินนะครับ ลงทุนด้วยความระมัดระวังกันหน่อยนะ

    ReplyDelete