Friday, November 20, 2015

TCMC กับการลงทุนในคุณ พิมล ศรีวิกรม์

TCMC เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ผมไปประชุมผู้ถือหุ้นด้วย (สำหรับปีนี้)
ปกติ จะใช้วิธี อ่านข้อมูลต่างๆ แล้วก็ search google บวกนั่งเทียนจินตนาการเองอีกเล็กน้อย ;p

จุดที่น่าสนใจสำหรับ TCMC ก็คือ คุณพิมล ศรีวิกรม์ หลังจากวางมือทางการเมือง
เลยจัดสรรเวลา มาบริหารบริษัท TCMC ให้เจริญเติบโต

จากบริษัทเดิม TCMC เป็นบริษัท พรมธรรมดาๆ สำหรับโรงแรมต่างๆ ซึงดูธุรกิจแล้วน่าเบื่อมากๆ
พอคุณพิมลเข้ามาบริหาร ก็ไปซื้อ TCH กลับคืนมา
(เดิม TCMC มีหุ้น TCH อยู่แล้วแต่ขายให้ partnerชาวญี่ปุ่น  ไปช่วงวิกฤต)
ซึ่ง TCH ก็ทำพรมเหมือนกัน แต่ดีกว่าหน่อย ที่เป็นพรมสำหรับรถยนต์ ยอดขายยังดีเรื่อยๆ และกำไรค่อนข้างดี TCMC ซื้อหุ้นกลับมาในราคาที่ถูกมากๆ
และจุดเริ่มต้นที่ได้มีโอกาสไปประชุม EGM ก็เกิดจากการอ่านข่าวใน set.or.th ว่า TCMC จะ Takeover ALSTONS ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต โซฟา ในประเทศอังกฤษ
ที่น่าสนใจคือ การใช้วิธี LBO หรือ Leveraged Buyout คือ การกู้เงิน มาลงทุนเพื่อซื้อกิจการ
ซึ่งหากดอกเบี้ยสูงๆ คงไม่สนุก แต่ช่วงนี้ Eurozone มีการทำ QE อย่างหนัก ดอกเบี้ยคงไม่ขึ้นง่ายๆ แน่ๆ
และ ALSTONS เอง ก็มีกระแสเงินสดที่ใช้ได้ ทำให้ Deal นี้ ดูเป็น Deal ที่น่าสนใจ
นอกจากนี้การซื้อ ALSTONS ก็ทำให้ TCMC ดูไฮโซขึ้นมานิดนึง กลายเป็นบริษัท "Sofa & Carpet"

หลังจาก EGM งบก็ออกมาได้ 2 ไตรมาสละ
โดยรวมยัง Align กับที่บอกไว้ตอนประชุมพอสมควร
รอดูผลงาน คุณพิมล ต่อไปเรื่อยๆ ครับ

ส่วนความเสี่ยงที่ต้องติดตามดู ก็คือ เรื่องอัตราดอกเบี้ย ว่ายังคงต่ำติดดินแบบนี้ต่อไปไหม
และ Cash Flow ของกิจการ ซึ่งหาก Clear หนี้ที่กู้มาไปได้ซักครึ่งนึง ก็น่าจะเริ่มเขมือบ บริษัทอื่นๆ ต่อไปได้

ส่งท้าย ขอแปะเนื้อหาตอนประชุม EGM ที่สรุปไว้ใน ThaiVI มาลง Blog หน่อยละกันครับ


**สรุป EGM TCMC วันที่ 12/6**
ขอสรุปรวมๆกัน ทั้งนำเสนอและ Q&A ละกันครับ
1. สาเหตุที่ซื้อ Alstons- คุณพิมล และ ม.ล.วัลลีวรรณ พบ deal นี้โดยบังเอิญ ตอนไปอังกฤษ- Alstons เป็นธุรกิจที่ดี ฐานะทางการเงินดี- สามารถ Synergy ได้ เช่น TCMC export พรมไปขาย ที่ UK ตาม Connection ของผบห. Alstons หรือ Alstons จะ Export โซฟาไปยังตลาดที่ TCMC ขายพรมอยู่ ก็ได้ เช่น ตะวันออกกลาง, USA, ASIA- มีโอกาสในการขยาย line การผลิตโซฟาที่ทำจากหนัง -> รอบนี้ ผบห.Alstons มาประชุม EGM ที่ไทย เลยได้มีโอกาสไปดูแหล่งแปรรูปหนัง ที่จังหวัดสมุทรปราการด้วย
2. Alstons ทำการผลิตแบบ Made to order โดยส่ง Catalog ไปให้ร้านค้าปลีก และ Buying group พอได้รับคำสั่งซื้อจึงเริ่มผลิต 
3. IFA ไปดูโรงงานของ Alstons ที่ประเทศอังกฤษ พบว่า โรงงานมีความทันสมัย พนักงานทำงาน Happy
4. การเจรจาต่อรองราคาซื้อขายกิจการ ของ TCMC และ Alstons ใช้วิธี EV/EBITDA ประกอบการพิจารณา ส่วนการประเมินของ IFA ใช้วิธี DCF ซึ่งใส่สมมติฐานแบบ Conservative
5. Goodwill ที่อยู่ในรายงาน IFA ยังไม่ใช่เลข Final ต้องรอจบ Deal ซื้อขาย แล้วทาง TCMC จะจ้างที่ปรึกษาประเมิน Goodwill ภายใน 6 เดือน โดยจะมีการ ประเมินด้อยค่า Goodwill ทุกปี แต่จะไม่ลงค่าตัดจำหน่าย
 
6. ผบห Alstons ทั้ง 3 ท่าน จะยังอยู่บริหารกิจการต่อไปอย่างน้อย 3-7 ปี (เซ็นต์สัญญาไว้แล้ว) 
7. ประวัติการจ่ายปันผลของ Alstons ที่ผ่านมา ปีที่แล้วจ่ายไป 2.3 ล้านปอนด์ (จ่ายจากกำไรสะสมด้วย) โดยคิดเป็นประมาณ 60% ของกำไร, ธุรกิจ Alstons ถือเป็น Cashcow
8. การกู้เงินมาลงทุนใน Alstons ทาง TCMC พิจารณามาอย่างรอบคอบแล้ว เดิม TCMC แทบไม่มีหนี้ และหารือกับ แบงค์กรุงเทพ แล้ว น่าจะไม่มีปัญหาการจ่ายดอกเบี้ย โดย IFA ประมาณการดอกเบี้ยจ่ายของ TCMC Furniture ที่ 66 MB (11 ล้านปอนด์ ที่ 4.5%, 13 ล้านปอนด์ ที่ 3.5%, +Shareholder loan)
9. ปัจจุบัน Alstons มี Market Share เป็นลำดับที่ 7 ในอังกฤษ โดยสภาพตลาด Furniture เป็นตลาดใหญ่ และ market share กระจายกัน โดยเบอร์ 1 มียอดขาย ประมาณ 80 ล้านปอนด์ ส่วน Alstons ประมาณ 24 ล้านปอนด์
 
10. ที่ตั้งของ Alstons อยู่ที่ Colchester หากจาก สนามฟุตบอลของทีม Reading พอสมควร (ตระกูลศรีวิกรม์ ถือหุ้นใหญ่) 
11. กรรมการอิสระทั้ง 3 ท่าน เห็นด้วยกับ deal นี้ โดยมีข้อกังวล/เสริม บ้างคือ- Performance Alstons ในอนาคตอาลไม่เป็นไปตามแผน แต่ที่ผ่านมาก็กำไรมาโดยตลอด- กังวลเรื่องดอกเบี้ย แต่จากแผนธุรกิจ น่าจะชำระดอกเบี้ยได้- การตกลงรายละเอียดกับ ผบห Alstons ทำได้รัดกุมดี 
12. สาเหตุที่ Alstons ที่ผ่านมา ยังไม่มีการส่งออก เพราะ ผบห อยาก Focus ตลาดในประเทศ เพราะตลาดใหญ่มาก แต่ หลังจากนี้ TCMC ก็เห็นโอกาสที่จะส่งออก โซฟา ไปขายให้กับลูกค้าที่ซื้อพรม 
13. การดำเนินการซื้อ Alstons หาก ผถห อนุมัติ จะจบดีลในวันที่ 19/6 นี้ โดยจะ consolidate เฉพาะงบแสดงฐานะทางการเงินใน Q2 นี้ ส่วนงบกำไรขาดทุน จะรวมใน Q3
14. ประเด็นการย้ายฐานการผลิตโซฟามายังไทย ยังไม่พิจารณาตอนนี้ เพราะการผลิตโซฟา ต้องใช้ skill มากพอสมควร และการผลิตในอังกฤษถือเป็นข้อดีด้วย (Made in UK) และกลุ่มลูกค้าของ Alstons เป็น B+ จะส่งต่อภาพลักษณ์ของ Brand ด้วย ส่วนสินค้าจากจีน ส่วนใหญ่กลุ่ม C
แต่ส่วนที่ไทยจะ Support ได้ น่าจะเป็นส่วนประกอบของ โซฟาหนัง, การส่งออกหนัง, หรือผ้าจากไทยได้ แต่เดิม Alstons ซื้อผ้าจาก Italy
15. Back-up plan หากผลประกอบการ Alstons ไม่เป็นไปอย่างที่คิด- ในแง่การเงิน มีเรื่อง Warrant เดิมที่ออกไว้แล้ว น่าจะ Support ได้ และทำ Sensitivity ไว้แล้ว สถานะการเงินทั้งคู่ไม่เป็นปัญหา- ในแง่การตลาด ที่ผ่านมาทำได้เข้าเป้าตลอด หากแย่จริง อาจหาตลาดส่งออก
 
16. การทำตลาด ASIA, ตะวันออกกลาง ต้องศึกษาเพิ่มเติม 
17. Capacity ปัจจุบันของ Alstons = 35,000 suite/ปี (1 suite = 5 ที่นั่ง) แต่เครื่องจักรปัจจุบันรองรับการขยายไปที่ 50,000 suite/ปี โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เพียงแค่ต้องจ้างแรงงานเพิ่ม 
18. Breakeven period ที่ IFA ประเมิน คือ 10 ปี (conservative) แต่ TCMC และ Alstons มองเป็น EBITDA และคิดว่าเร็วกว่า 10 ปี (มอง 5-6 ปี) 
19. การซื้อขายกิจการ สาเหตุที่ต้องออก Shareholder loan เพราะต้องการดึงเงินลงทุนกลับ TCMC ให้เร็วที่สุด และต้องการ Minimize Tax ในการซื้อขายกิจการด้วย20. การจ่ายเงินปันผล ของ TCMC Furniture สามารถทำได้ ไม่ต้องเคลียร์หนี้หมด หากผลประกอบการดีกว่าที่คาด 
21. CFO Alstons บอกให้ลองคิดภาพแบบง่ายๆ ว่า ลงทุนใน Alstons ใช้เงิน 760,000 ปอนด์ ที่เหลือกู้เอา พออีก 5 ปี มูลค่ากิจการ Alstons เพิ่มจาก 25 ล้านปอนด์ เป็น 30 ล้านปอนด์ และจ่ายหนี้หมด ผลก็คือ เงินลงทุนเดิมของ TCMC ก็โตจาก 760,000 ปอนด์ เป็น 30 ล้านปอนด์(ต้องคูณ x76% ด้วย) (แบบว่าโลกสวยนิดนุง) 
22. TCMC มีการว่าจ้างบริษัท RPL ศึกษา due diligence พบว่าสาเหตุที่ ผลประกอบการ Alstons โตต่อเนื่อง มาจากกลยุทธ์ของ ผบห.ใหม่ทั้ง 2 ท่าน Strategy มีความ Solid โดย IFA ช่วยเสริมรายละเอียดกลยุทธ์ได้แก่- Cost control- Production control- เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า 
23. การเอา TCMC furniture list ที่ UK ต้องศึกษาเพิ่ม (ยังไม่ได้คิด) 
24. อัตราแลกเปลี่ยนในการซื้อกิจการ มีการซื้อ Forward ไปแล้ว 11 ล้านปอนด์ ที่ rate เฉลี่ยประมาณ 50.8 บาทต่อปอนด์ 
25. เสริมนอกรอบจาก IFA บอกว่า ผบห ของ Alston ทั้ง 2 ท่าน (CFO และ Marketing) เก่งมากๆ

ต่อด้วยของคุณ wind77
1. ก่อนประชุมคุยกับผู้บริหาร ALSTON ท่านที่ใส่แว่นแต่ไม่ใช่คนสกินเฮด น่าจะเป็นคุณ Andrew ผู้อำนวยการฝ่ายขายครับ ว่าความสามารถของ ALSTON นั้นสามารถสร้างยอดขายได้ถึงระดับไหน คุณ Andrew บอกว่าระดับ 40-45 ล้านปอนด์ น่าจะทำได้ภายในไม่เกิน 5 ปี และบอกว่า 40 ล้านน่าจะทำได้แบบง่ายมาก (แกใช้คำว่า very easy)ผมเลยจับมาประกอบกับตัวเลขที่ได้ในการประชุมว่าปัจจุบันผลิตปีละ 35000 suite และสามารถรองรับยอดขายได้ถึง 50000 suite ถ้าเอายอดขายปีที่พึ่งจบ 28 ล้านปอนด์ หาร 35000 suite จะได้ประมาณ suite ละ 800 ปอนด์ ผมเลยเดาว่าตัวเลขยอดขายที่บอกว่า 40 ล้านปอนด์ทำได้ น่าจะเกิดจากเอา 50000 suite เต็มกำลัง คูณราคาเฉลี่ย 800 ปอนด์ครับผู้บริหาร ALSTON นี่เค้าก็สื่อสารกับนักลงทุนง่ายดีนะครับ ธุรกิจโซฟาบอกจำนวนคูณราคา จบดังนั้นความเป็นไปได้ของ ALSTON คือยอดขายผู้บริหารพยายามผลักด้นให้เพิ่มจาก 28 ล้านปอนด์เป็น 40 ล้าน ถ้า NPM ~10% ใกล้ๆเดิมกำไรคงเพิ่มจาก 2.7 ล้านปอนด์เป็น 4 ล้านปอนด์ +- น่าจะเป็นความสามารถการทำกำไรของ ALSTON ในอนาคตและสัมพันธ์กับ EBITDA 4-5 ล้านปอนด์ที่คาดว่าจะนำมาชำระหนี้ครับด้านดีคือตัวเลขที่คุยกันทั้งในรอบนอกรอบ เร็วกว่าที่ IFA ประเมิน conservative ไว้ ก็หวังว่าจะทำสำเร็จ แต่มีด้านลบซ่อนอยู่นิดนึงคือถ้าสังเกตดีๆ ALSTON ภาษีจะต่ำกว่าปกติ (effective 8% ทั้งๆที่ uk corporate tax ประมาณ 20%) ผมก็ถามว่าทำไม ได้คำตอบว่ามี tax loss carry forward จากการขาดทุนสะสมของ ALSTON cabinet ในอดีตที่นำมาใช้ลดภาษีได้อยู่อีกสักพัก แต่ไม่ได้บอกว่ากี่ปีครับ) วันนึงถ้าใช้หมดแล้วคงเสียภาษีเต็ม แต่หวังว่ากำไรคงเพิ่มมาชดเชยได้ทันเวลาครับ
 
2. คุยกับท่านประธานกรรมการ คุณพิมล ศรีวิกรม์ ถามท่านว่าแผนขยายกิจการเป็นอย่างไร ก็ได้ความว่าท่านก็มีแผนจะขยายธุรกิจต่อครับ โดยจะเน้นลักษณะคล้ายๆกับที่ผ่านมาคือซื้อธุรกิจที่ทำอยู่แล้ว ได้มาแล้วมีผลต่อยอดขายและกำไร สามารถขยายงานได้เลย จะไม่เอา greenfield เพราะใช้เวลานานกว่าจะตั้งธุรกิจได้ เพราะบริษัทไม่ได้ขยายธุรกิจมานานก็อยากให้มีการเติบโต โดยจะพยายามให้ได้ก่อนเกษียณ เพราะท่านอยากเกษียณเร็วหน่อย เผื่อจะมีเวลาท่องเที่ยวบ้าง (ปัจจุบันท่านอายุ 51 ปี ในแง่การเกษียณอายุ ถ้าอายุทำงานคง 60 ปีก็อีกไม่นาน แต่ผมว่าน่าจะหมายถึงอายุเกษียณในแง่ของประธานกรรมการมากกว่าครับ เพราะคุณแม่ท่านประธานก็ดำรงตำแหน่งถึงอายุ 70 กว่าปีครับ ตรงนี้พยายามจับประเด็นก็ได้ดังนี้- การขยายงานคงพยายามทำเร็วที่สุดก่อนท่านเกษียณ ใน 2-3 ปีนี้ก็ถือว่าเร็วติดจรวดมากครับ รวมดีลนี้รายได้ก็โตมา 300% หวังว่าท่านประธานจะยังอยู่นานๆครับ- แนวทางการขยายงานทั้งที่ท่านประธานสื่อสารมาในสารจากประธานกรรมการใน Annual Report, รายงานการประชุม, รายการ Money Talk ยังคงชัดเจน หนักแน่น แนวทางเดิม และผลักดันออกมาได้จริงครับ- จากการขยายงานสองครั้งที่ผ่านมา เห็นภาพคำที่ท่านประธานบอกว่าเน้น shareholders value ขึ้นมากครับ 
3. เรื่องของภาระดอกเบี้ยที่่ IFA ชี้แจงว่า 60 กว่าล้านนั้น รวมส่วนที่ management ของ ALSTON ต้องรับภาระเข้าไปด้วยครับจึงมากกว่าที่จะมีผลต่องบ TCMC จริงๆหน่อยนึง ส่วนตัวเลขจริงไตรมาสสามคงได้เห็นกันครับ 
4. งานพรมที่วัง Emirates ผมถามพนักงานด้านนอก เค้าบอกว่างานนั้นส่งมอบไปแล้วและลูกค้าชอบ แต่พอผ่านไปสักพักมีการขยายวังขึ้นอีกหลายเท่าตัว และบริษัทได้ยื่นประมูลงานไปและก็ได้งานมาอีกซึ่งจะทำและส่งมอบเพิ่มเติมยังไม่เสร็จ (ส่วนตัวเลขเท่าไรกับว่าส่งมอบเมื่อไรผมไม่กล้าถามต่อครับ) บริษัทมีพนักงานประจำอยู่ที่โน่นเลย เราคงต้องรอดูกันในไตรมาสต่อๆไปครับว่ามีผลลัทธ์มากน้อยแค่ไหนครับมีหลายๆเรื่องที่ยังต้องรอตัวเลขให้ confirm แต่ไตรมาสสามน่าจะทำให้เห็นภาพของบริษัทชัดเจนขึ้นหลังรวมงบ ALSTON เข้างบแสดงผลการดำเนินงานครับ 
ปล. ส่วนตัวชอบผู้บริหาร ALSTON ครับ ทั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวิธีการสื่อสาร เป้ารายได้ (28 เป็น 40 ล้านปอนด์) จำนวนโซฟา (35000 เป็น 50000 suite) มูลค่ากิจการ (30 ล้านปอนด์ เป็นของ TCMC 76% = ~22.8 ล้านปอนด์ = ~1140 ล้านบาท ใน 5 ปี โดยที่ไม่ต้องเพิ่มทุน) แถมธุรกิจนักลงทุนทำความเข้าใจได้ง่ายด้วยครับ แต่อาจจะอยู่ไกลไปสักนิดนึง  

No comments:

Post a Comment