Wednesday, December 9, 2015

“ยิ้มให้กับโลกสักครั้ง”


...ความสำเร็จใครกันเป็นผู้กำหนด? ไม่มีใครรู้หรอก แต่จงจำไว้ว่า ความสำเร็จไม่ได้มีหนทางเดียว ดังนั้นจงจำไว้ว่า เลือกในสิ่งที่เหมาะที่สุดกับคุณ จงอย่าลอกแบบตัวอย่างความสำเร็จของคนอื่น...

เขาคือ หนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งฮ่องก
เขาคือ นักร้อง ดารา ที่มีผลงานมากที่สุด
เขาคือสามี คุณพ่อ และผู้ชาย ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สุภาพบุรุษ"ทั้งบนเวทีและในโลกแห่งความเป็นจริง
ล่าสุด เขาได้รับทาบทามให้เป็นโค้ชของรายการประกวดร้องเพลงชื่อก้อง The voice.......แต่ คุณเคยเห็นเขา "บรรยาย" หรือเปล่า ??

หลิวเต๋อหัว ได้เป็นแขกรับเชิญรายการโทรทัศน์ของจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ดาราและนักร้องหนุ่มใหญ่วัย 52 ปีได้ “เดี่ยวไมโครโฟน” เป็นภาษาจีนกลาง รายการนี้เป็นรายการที่เชิญบุคคลดังในแวดวงต่างๆ มา “บรรยาย” ให้ผู้ชมฟังในรูปแบบของห้องเรียนเสรีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาว

และต่อไปนี้ คือ คำบรรยายของหลิวเต๋อหัว ในหัวข้อ “ยิ้มให้กับโลกสักครั้ง”

“ ปี 1961 ผมเกิดที่ชนบทของฮ่องกง แถวบ้านมีนกยูง มีหมูมากกว่า 200 ตัว มีนกพิราบจำนวนนับไม่ถ้วน ตอนเด็กๆผมได้เห็นสิ่งที่เด็กๆสมัยนี้ไม่เคยเห็นมากมายหลายอย่าง เป็นของจริงที่ชัดเจนยิ่งกว่าโทรทัศน์ในยุคนี้ 

ตอน 6 ขวบ พ่อตัดสินใจพาผมย้ายจากชนบทมาอยู่ในเมือง พ่ออยากให้พวกเราได้สัมผัสกับโลกภายนอกที่กว้างขวาง แต่การทอดทิ้งบ้านเกิดทำให้คุณปู่โกรธพ่อของผมมาก พอตอนแบ่งพินัยกรรม พ่อของผมจึงไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง หลังจากนั้นเราจึงต้องอาศัยอยู่ในเขตยากไร้ของฮ่องกงที่เรียกว่า “ภูเขาเพชร” ทำไมถึงเรียกว่า “ภูเขาเพชร ? อาจเป็นเพราะว่าคนที่นั่นล้วนฝันว่า ที่อยู่ของพวกเราที่นี่จะดูดีขึ้นในสักวันหนึ่ง

พ่อของผมเป็นพนักงานดับเพลิง และเพราะบ้านที่นั่นมีแต่บ้านไม้ ทุกวันจึงต้องระวังไฟไหม้ ต้องจำให้ได้ว่าบัตรประชาชนวางไว้ที่ไหน เพราะถ้าไฟไหม้เราก็ทำได้แค่รีบเข้าไปเอาบัตรประชาชน แล้วก็หนีออกมา....และวันหนึ่ง เมื่อผมอายุ 10 ขวบก็เกิดไฟไหม้ขึ้นจริงๆ พวกเราก็เลยต้องย้ายออกมา พ่อกับพวกเราต้องอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราวที่รัฐบาลช่วยสร้างขึ้นนานถึง 1 ปี จนกระทั่งปีต่อมา เราจึงได้ย้ายเข้าไปยังบ้านใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยปูนเป็นครั้งแรก ในช่วงนั้นพวกเราต้องปากกัดตีบถีบทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงชีวิต

จนกระทั่งปี 1980 ผมมีโอกาสอบรมกับสถานีโทรทัศน์ TVB และได้เซ็นสัญญากับทางสถานีในที่สุด 

นั่นเป็นประวัติชีวิตคร่าวๆของผม วันนี้ผมมาบรรยาย มาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะสอนอะไรกับพวกคุณได้บ้าง พวกคุณคงคิดว่า หลิวเต๋อหัวเป็นคนที่ประสบความสำเร็จสุดๆ แต่ความจริงแล้ว หลิวเต๋อหัวถูกสื่อมวลชนแต่งแต้มจนกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ เหมือนกับว่า ผมไม่ต้องกิน ไม่ต้องนอน ก็มีชีวิตอยู่ได้จนอายุ 52 ปี แต่ความจริงแล้ว ผมเป็นแค่ “คนธรรมดา” คนหนึ่ง....และก็เคยล้มเหลวเช่นเดียวกัน

ปี 1981 ผมเพิ่งเข้าอบรมกับ TVB ตอนนั้นผมมีแฟนสาวที่คบหากันนานถึง 3 ปีแล้ว ผมคิดว่าเป็นผู้ชายต้องรับผิดชอบ จึงมุมานะทุกอย่าง ตอนเช้าเริ่มฝึกตั้งแต่ 9 โมง จนถึงตอนค่ำยังต้องฝึกเต้นรำ และการแสดงมากมาย 

และวันหนึ่ง ผมได้รับโทรศัพท์ คนที่โทรมาถึงแฟนของผมที่ไม่มีเวลาไปพบกันนาน 4 เดือนแล้ว เธอถามผมว่ามีเวลาปลีกตัวมาสักนิดไหม? ผมตอบตกลง แต่เวลากว่าจะออกมาพบกันได้ก็นานถึง 8 ชั่วโมงถัดมา เธอนัดผมที่ยอดเขาแห่งหนึ่งซึ่งโรแมนติกมาก สามารถมองเห็นฮ่องกงได้ทั้งเกาะ แต่เธอกลับใช้สถานที่นี้บอกเลิกกับผม ผมพร่ำถามตัวเองว่า เพราะอะไร? ผมไม่ได้ทำผิดอะไร? แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอธิบายอะไรสักคำเดียว เธอก็หันหลังจากไปแล้ว ผมค่อยๆเดินลงจากเขาจนมาถึงป้ายรถเมล์ รอจนกระทั่งรถที่ไม่ค่อยมีผู้โดยสารคันหนึ่งมาถึง ผมนั่งอยู่แถวสุดท้ายคนเดียว ผมรู้สึกว่ายิ่งรถวิ่งไปข้างหน้าเร็วเท่าไหร่ หยาดน้ำตาก็ปลิวสวนทางไปเร็วเท่านั้น

ความล้มเหลวในรักครั้งแรก ทำให้ผมทุ่มเทกับการทำงานมากขึ้น และในที่สุด ผมก็ได้พบกับความสำเร็จครั้งแรกนั่นคือ การได้รับบทพระเอก นั่นคือความสำเร็จ....แต่ความสำเร็จมีหลายอย่าง

ในปี 1985 ผมถ่ายละครเรื่อง “มังกรหยก” เพิ่งเสร็จ ตอนนั้นผมเห็นเฉินหลง เห็นโจวเหวินฟะ หันไปเล่นภาพยนตร์กันมากมาย ผมก็อยากจะมีโอกาสเล่นหนังบ้าง จึงบอกกับทาง TVB ว่า ผมขอเล่นละครปีละแค่หนึ่งเรื่องได้ไหม? เวลาที่เหลือขอไปเล่นหนัง ทาง TVB ตอบว่า ไม่ได้!ผมจึงต้องเลือก และผมเลือกที่จะออกจากสถานีโทรทัศน์ใหญ่อย่าง TVB เพื่อมารับเล่นหนังอย่างอิสระ ในตอนนั้นคนรอบตัวผมบอกว่า “หลิวเต๋อหัว นายตัดสินใจอย่างนี้ล้มเหลวแน่!”

แต่การตัดสินใจของแต่ละคนล้วนมาจากหัวใจ ผมก็เดินตามทางที่เลือกแล้ว....จนกระทั่งผมได้พบกับ “คนตัดคน” ได้พบกับ “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” และได้พบกับ “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ”....คราวนี้คนรอบตัวกลับบอกกับผมว่า “หลิวเต๋อหัว นายตัดสินใจตอนนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ!” 

ความสำเร็จใครกันเป็นผู้กำหนด? ไม่มีใครรู้หรอก แต่จงจำไว้ว่า ความสำเร็จไม่ได้มีหนทางเดียว ตอนที่ผมลาออกจาก TVB มาดิ้นรนด้วยตัวเอง แต่ยังมีอีกคนหนึ่งเลือกที่จะอยู่กับ TVB เขาคนนั้น คือ เหลียงเฉาเหว่ย...แล้ววันนี้เขาประสบความสำเร็จหรือไม่? ดังนั้นจงจำไว้ว่า เลือกในสิ่งที่เหมาะที่สุดกับคุณ จงอย่าลอกแบบตัวอย่างความสำเร็จของคนอื่น

คนรู้จักจินเคอไหม? เขาคือมือสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ เขาทำสำเร็จหรือล้มเหลว คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาล้มเหลวใช่ไหม? จิ๋นซีฮ่องเต้รวมอาณาจักรจีนเป็นหนึ่ง สำเร็จหรือล้มเหลว คนส่วนใหญ่คิดว่าทำสำเร็จใช่ไหม? แต่วันนี้ ทำไมคุณยังจำมือสังหารที่ชื่อจินเคอได้ ? ทำไมคนจำนวนมากประณามการปกครองของจิ๋นซีฮ่องเต้ ? ความสำเร็จจึงไม่ได้อยู่ที่คุณบอกตัวเอง แต่ประวัติศาสตร์จะเป็นบอก 

คนที่ชอบผมจะบอกว่า หลิวเต๋อหัวเป็นดาราใหญ่ มีครอบครัวที่มีความสุข แต่คนที่ไม่ชอบผมก็จะบอกว่า หลิวเต๋อหัวเล่นหนังบู๊ล้างผลาญไร้สาระ เพียงแค่โชคดีถึงดัง และเขายังเห็นแก่ชื่อเสียงไม่เอาใจใส่ครอบครัว คนใกล้ชิดทุกคนต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ เช่นนี้แล้วผมก็คือคนที่ล้มเหลวที่สุด 

ผมเห็นคนที่ประสบความสำเร็จมามาก หลายคนน่ารำคาญมาก พวกเขามักคิดว่าจะต้องแสดงอัตตาให้มากที่สุด บางครั้งแม้แต่ข้อบกพร่องของตัวเองก็ยังคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของอัตตา แต่ถ้าคุณมีปัญญาจะพบว่า เราสามารถใช้ความมานะแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง ถึงตอนนั้นคุณก็จะเป็นคนที่ทั้งประสบความสำเร็จ และเป็นคนที่ผู้คนรัก

ทุกคนตอนเช้า ผมจะยืนอยู่หน้ากระจกแล้วถามตัวเองว่า คุณเป็นใคร? คุณเคยทำผิดต่อตัวเองไหม? คุณเคยทรยศตัวเองไหม? คุณเคยหลอกตัวเองไหม? ถามตัวเองอย่างนี้ทุกวันเพื่อเตือนสติตัวเอง จากนั้นค่อยเดินออกไป ยิ้มให้กับคนในครอบครัว ยิ้มให้กับเพื่อนบ้าน ยิ้มให้กับคนแปลกหน้าที่พานพบ ยิ้มให้กับ...คนที่ล้มเหลว คุณจะพบว่าโลกนี้เต็มเปี่ยมด้วยความรัก หากโลกนี้เต็มเปี่ยมด้วยความรัก ความสำเร็จจะยังห่างไกลจากเราทุกคนงั้นหรือ? โลกที่เต็มเปี่ยมด้วยรัก แม้คุณจะล้มเหลว ก็จะยังมีสักคนหนึ่งที่ยิ้มให้กำลังใจคุณ

โลกนี้คนที่ประสบความสำเร็จย่อมมีน้อยกว่าคนที่ล้มเหลวแน่นอน แต่พวกคุณจำไว้ว่า ขอเพียงคนที่ล้มเหลวอย่างพวกเราไม่ล้มเลิก ไม่ยอมแพ้ ก็จะไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่ประสบความสำเร็จแน่นอน.”

ที่มา : FB Nuttachat Kumsiritrakul

No comments:

Post a Comment