Tuesday, December 8, 2015

TPAC Oppday ครั้งแรก ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์!


Link Oppday
Slide นำเสนอ

ข้อมูลนำเสนอ

  • 1983 เริ่มด้วยเครื่องจักร 5 เครื่อง, ปัจจุบันมี 167 เครื่อง
  • Listed ปี 2005
  • ผลิต Rigid plastic packaging กำลังการผลิต 20,000 ตัน/ปี
  • ลูกค้า : อาการและเครื่องดื่ม 50%, personal care 28%, home care 10%, อื่นๆ (custom - plastic closures
  • Domestic 91%, Export 9%
  • ตัวอย่างลูกค้า ดังรูป (ฟังแล้วนึกถึง PJW เลย)
  • พัฒนาการของบริษัท

  • ปีที่ผ่านมา ยอดขาย โต 10%CAGR
  • ปัจจุบัน Lohia Family ถือหุ้นใหญ่ 60.55%

  • Vision และ กลยุทธ์ ดูดีทีเดียว ดังรูป

  • TPAC มีการเติบโตไปตามลูกค้า มีความสัมพันธ์ที่ดี
  • กระบวนการผลิต ดังรูป
  • ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

  • Financial performance ก็เรื่อยๆ นะ (ลองดูในไฟล์ Oppday ละกันครับ)
  • Key Investment Highlights

Q&A
  1. ถามเรื่อง Innovation (Product Differentiation) vs. Under Utilization of Capacity การใช้กำลังการผลิตประมาณ 16,000 ตัน (80%) แต่ก็ต้องเตรียมงบลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตทุกปี 
  2. Net Profit = 6.5% , EBITDA margin = 15%
  3. ผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างเดียว เต็มที่ก็ติดฉลาก, พิมพ์สี โดยลูกค้าจะเอาไปบรรจุสินค้าเอง
  4. สัญญามีทั้งแบบ contract และทางวาจา โดยทั้งหมดเป็นการ deal กันแบบ long term (partnership)
  5. AEC ทำให้ตลาดใหญ่ขึ้น และอาจสร้างโอกาสในการเจริญเติบโตแบบ Inorganic (ซื้อกิจการ)
  6. ราคาน้ำมันไม่ได้กระทบตรงๆ ทาง TPAC เป็น Converter ส่งผ่านราคาสินค้า ไปให้ลูกค้า (แต่ก็มี delay โดยการปรับราคา เป็นรายไตรมาส หรือ หากราคาวัตถุดิบขึ้นสูงมากเกินกี่ %)
  7. ยอดขายในประเทศ มีบางส่วนที่เป็น indirect export คาดว่าประมาณ 20-30% ของยอดที่ขายในประเทศ
  8. การปรับสัดส่วนการผลิต ตามความต้องการลูกค้า ซึ่งการกระจายกระบวนการผลิตเป็น 3 process ก็เป็นการกระจายความเสี่ยง
  9. Forecast 2016 บริษัทสนใจเรื่องยอดการผลิตมากกว่า เพราะราคา product ก็ตามราคาพลาสติก และ focus bottom line โดยคิดว่าจะเทียบเท่า 5 ปี ที่ผ่านมา
  10. ลูกค้าต่างประเทศซื้อฝาพลาสติก จาก TPAC เนื่องจาก บริษัท สามารถผลิตสินค้านี้ได้ ในขณะที่ประเทศของลูกค้าผลิตไม่ได้ 
  11. Add-on จากการผลิตขวด (ใส่ฟิลม์, ติดฉลาก) ปัจจุบัน พนักงาน 100 คน จาก 900 คน ทำกิจกรรมพวกนี้อยู่ ถือเป็น Value-added ให้บริการครบวงจร
  12. หากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเม็ดพลาสติกเพิ่ม ซึ่งก็จะมีผลช่วงแรก ช่วงที่ยังไม่ได้ปรับราคาขายขวด อาจได้ผลกระทบบ้าง แต่บริษัท ใช้วิธีบริหาร inventory เอา
  13. กระบวนการผลิตมีการทำ In-house recycle บางส่วน แต่ก็มีบางส่วนที่ recycle ไม่ได้ โดยมี %waste ประมาณ 0.3-0.4% จากช่วงเริ่มทำใหม่ๆ 30 ปีที่แล้ว %waste ถึง 7%
  14. BOI ผบห. ก็ดูอยู่เรื่อยๆ ว่าจะขอได้ไหม

Wrap up
  • ไม่รู้ว่า Lohia Family ที่ Takeover จะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ช่วงที่เข้ามาซื้อกิจการ ก็ทำเอาราคาหุ้นหวือหวา ทีเดียว 
  • อ่อ นอกจากหุ้นแม่ ยังมี TPAC-w1 เหลืออีกพอสมควร หมดอายุปีหน้าครับ


No comments:

Post a Comment