1. "จงพูดให้ตัวเองฟังอยู่เป็นนิจว่า ต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น เพื่อให้แผนการและเป้าหมายสำเร็จบรรลุผล ต้องวาดภาพอุดมคติสูงส่งและวิสัยทัศน์เปี่ยมคุณธรรมให้เกิดขึ้นในจิตใจอย่างแรงกล้า" ...คุณอินาโมริพูดต่อพนักงานของ JAL ที่โศกเศร้าคร่ำครวญจากการล้มละลาย คุณอินาโมริบอกว่า ยกคำพูดนี้มาจากคำพูดของคุณนาคามูระ เท็มปู นักคิดที่อธิบายแนวคิดเชิงรุก
2. "ผมทำสิ่งที่คนพูดว่าทำไม่ได้แน่นอน ด้วยวิธีที่คนอื่นทำไม่ได้ ดังนั้น Kyocera และ KDDI จึงมีวันนี้ หากใช้วิธีทำงานที่ติดอยู่ในกรอบของสามัญสำนึกคงเป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ไม่ได้"
3. "ทุกคนมาทำอะไรกันที่นี่ ดูเหมือนจะมาศึกษาเรื่องบริหารสินะ ถ้าว่างทำเรื่องอย่างนั้นล่ะก็ รีบกลับไปทำงานต่อที่บริษัทให้เร็วที่สุดเถอะ คิดว่ามาออนเซ็นกินดื่ม แบบนี้จะศึกษาเรื่องบริหารได้รึไง หลักฐานอยู่นี่ ผมไม่เคยให้ใครสอนเรื่องบริหารเลย ขนาดผู้ชายแบบผมยังบริหารบริษัทได้เลย สิ่งที่ต้องทำมีเรื่องเดียวคือ รีบกลับไปบริษัทและทุ่มเททำงานซะ" "มีไอ้บ้าที่ไหนจ่ายเงินค่าอบรมแพงขนาดนี้"...คุณ โซอิจิโร่ ฮอนดะ พูดต่อ ผู้เข้าร่วมสัมมนาคอร์สการบริหาร (คุณฮอนดะ ได้รับเชิญ เป็นผู้บรรยาย) เล่นเอาคุณอินาโมริ ในวัยหนุ่มและเพิ่งตั้งบริษัทไม่นาน อึ้งไปเลย และคิดว่า ต้องรีบกลับไปลงมือทำงานบ้าง
4. ผู้นำต้องยืนหยัดด้วย "จิตวิญญานนักสู้ที่ลุกโชน" เพื่อเผชิญหน้าไม่เพียงเฉพาะคู่แข่ง (Competitor) ที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจผันผวนที่ถาโถมเข้ามาด้วย ผู้บริหารกิจการไม่ควรอ้างว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจผันผวน แม้ค่าเงินเยนแข็งตัวหรือเศรษฐกิจตกต่ำก็ตาม
5. "บริษัทของเรามีศักยภาพอันยอดเยี่ยม แม้ว่าตอนนี้ยังเล็ก แต่ในอนาคตต้องพัฒนาจนยิ่งใหญ่ได้แน่นอน" พูดซ้ำๆแบบ นี้ทุกวัน พูดจนเหนื่อย พอปูพื้นฐานได้ก็หาโอกาสไปนั่งดื่มและพูดคุยแบบเข้าเรื่องว่า "ตั้งใจว่าปีนี้จะทำยอดขายเพิ่มอีกเท่าตัว" และในตอนนั้นให้หาคนที่ทำงานไม่ค่อยเก่งแต่ประจบเก่งไว้ข้างตัว ให้เขาคอยพูดว่า "นั่นสิครับท่าน มาทำกันเถอะ!" ทีนี้พวกคนหัวดีทำงานเก่งแต่นิ่งเฉยที่พอเสนอเป้าหมายสูงเมื่อไรจะชอบอ้างว่า "ท่านครับ ผมว่าทำไม่ได้หรอกเพราะว่า..." คนพวกนี้จะพูดอะไรไม่ออกและจะคล้อยตามกรรมการผู้จัดการใหญ่ไปโดยปริยาย เป้าหมายที่สูงกว่าเป้าหมายแรกที่ผู้บริหารกำหนดไว้จะกลายเป็นเป้าหมายที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันไปเอง สรุปคือ การบริหารต้องใช้ "จิตวิทยา" ด้วย ต่อให้ตั้งเป้าหมายให้ต่ำไว้แค่ไหน หากคนไม่รู้สึกใยดี ก็จะกลายเป็น "ทำเกินไป ทำไม่ได้หรอกครับ"
6. "จงสร้างของที่คมจนบาดมือได้"...กลางดึกคืนหนึ่ง คุณอินาโมริเดินดูโรงงานเซรามิก เห็นพนักงานหนุ่มกำลังสิ้นหวังกับขั้นตอนการเผาเซรามิกที่ปรับอุณหภูมิเตาเผาหลายครั้งแล้วก็ไม่คงที่ ขนาดชิ้นส่วนที่เผาเสร็จออกมาจึงต่างกันเล็กน้อย คุณอินาโมริ ถามพนักงานคนนั้นว่า "อธิษฐานกับเทพเจ้าหรือเปล่าว่า โปรดให้เผาออกมาสำเร็จ" นั่นหมายถึง ถามว่า "ได้ใส่จิตวิญญานลงไป ใช้ความพยายามและความคิดสร้างสรรค์จนถึงที่สุด จนเหลือหนทางเดียวเพียงแต่ต้องอธิษฐานกับพระเจ้าอย่างเดียวแล้วหรือยัง"
7. "อะไรคือสิ่งที่ถูกต้องในฐานะมนุษย์ ทำสิ่งถูกต้องนั้นให้สำเร็จ"
8. ใช้ความตั้งใจ "เพื่อโลก เพื่อมนุษยชาติ" เป็นพลังขับเคลื่อน ในการดำเนินกิจการ
9. "เปลี่ยนจากค่านิยมด้านปริมาณ มาเป็นค่านิยมด้านคุณภาพ"
10. "ยิ่งหนาวเท่าใด ก็จะนิ่งทำให้ ซากุระเบ่งบานได้งดงามมากขึ้นเท่านั้น"
* หนังสือ "ถอยก็ตาย วิกฤต ยังไงก็ต้องสู้" เป็นหนังสือที่เขียนโดย คุณคาซึโอะ อินาโมริ
ผู้ได้รับสมญานามว่า "เทพแห่งการบริหารที่ยังมีชีวิตอยู่"
คุณอินาโมริ คือผู้ก่อตัวบริษัท Kyocera และ DDI (ก่อนควบรวมกิจการเป็น KDDI)
อีกผลงานที่ท่านฝากไว้คือ ในวัย 78 ปี ท่านอาสามาพลิกฟื้นกิจการ Japan Airlines (JAL) แบบไม่รับเงินเดือน ทำให้ JAL พลิกจากบริษัทที่อยู่ในภาวะล้มละลาย กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใน 3 ปี
No comments:
Post a Comment