หุ้นที่ถือแล้วนอนหลับสบาย
หุ้นที่ถือแล้วนอนหลับสบาย
เขียนโดย คุณ invisible hand
3 ตุลาคม 2008
credit: www.greenbull.net
-------------------------------------------
หุ้นที่ถือแล้วนอนหลับสบายก็คงต้องผ่านเงื่อนไขหลายๆ อย่างดังนี้ครับ
1 ) ข้อนี้สำคัญที่สุดคือ เราไว้ใจผู้บริหารครับ ต่อให้ธุรกิจแข็งแกร่งอย่างไรแต่ถ้าเราไม่ไว้ใจผู้บริหารด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เราคงหลับไม่สบายครับ ดังนั้นผู้บริหารควรจะสอบผ่านในเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใสครับ รวมถึงความดูแลเอาใจใส่ผู้ถือหุ้นดีในระดับหนึ่ง นอกจากความซื่อสัตย์ของผู้บริหารแล้ว ความสามารถและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ
2 ) เป็นธุรกิจที่ในระยะยาวจะเติบโตได้
มากกว่า norminal GDP ( nominal GDP = real GDP + เงินเฟ้อ )
ก็คือเราดูtrend ธุรกิจแล้วต้องเติบโต ไม่ควรอยู่ในธุรกิจที่ถดถอย
ดังนั้นสิ่งที่เติบโตได้ก็คือแนวโน้มที่คนไทยจะจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการของธุรกิจที่เราถือหุ้นต่อรายได้ 100 บาท ในอนาคตจะเพิ่มขึ้น
3 ) ธุรกิจมีรายได้ค่อนข้างแน่นอน มีฐานลูกค้าประจำ ลูกค้าจะต้องซื้อหรือใช้บริการซ้ำๆ ซึ่งเกิดจากสินค้าหรือบริการนั้นมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน หรือเป็นสินค้าประเภทสิ้นเปลือง ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นจะได้รับผลกระทบจากภาวะต่างๆ น้อยกว่าหุ้นประเภทอื่นๆ
4 ) เป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดที่ดี เติบโตได้โดยไม่ต้องรบกวนเงินผู้ถือหุ้น ( การเพิ่มทุน ) บ่อยเกินไปนัก หุ้นที่มีกระแสเงินสดที่ดีจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องเพิ่มทุนมากนัก
5 ) มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ อย่างกรณีของหุ้นสถาบันการเงิน ธนาคารหรือบริษัทเงินทุน ที่มี D/E ratio 10-20 เท่านั้นถือว่าเป็นหุ้นที่ถือแล้วหลับไม่สบายแน่ๆ อย่างที่เราเห็นแล้วจากวิกฤติ subprime ที่สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงก็สามารถล้มละลายได้เมื่อสถานการณ์คับขัน รวมถึงหุ้นบางตัวที่มีการให้เครดิตลูกหนี้การค้าจำนวนมากและระยะเวลายาวนานโดยไม่ได้ทำประกันความเสี่ยงก็คงเป็นหุ้นที่ถือแล้วไม่ค่อยสบายใจแน่ครับ
6) มีการจ่ายปันผลที่ดี สอดคล้องกับกำไรหรือเงินสดที่กิจการได้รับ เพราะตลาดหุ้นไม่ได้ดีทุกปี เราคงจะคาดหวังผลตอบแทนในรูปของส่วนต่างราคาทุกปีไม่ได้ บางปีที่หุ้นแย่มากอย่างเช่นปีนี้ ถ้าเราถือหุ้นที่จ่ายปันผลดีๆ ก็เท่ากับว่าเราจะได้เงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงได้เงินที่สามารถนำมาซื้อหุ้นที่เราสนใจเพิ่มได้อีกด้วย
7 ) เป็นหุ้นที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา เราสามารถซื้อสินค้าหรือบริการของหุ้นตัวนั้นๆ และเราก็มีความพึงพอใจในสินค้าและบริการในระดับหนึ่ง เราสามารถเดินเข้าออกกิจการของเราได้อย่างมีเสรีภาพ เพื่อดูว่าธุรกิจที่เราลงทุนนั้นยังดีอยู่ไหม
No comments:
Post a Comment